แมลงก้นกระดก เจ้าตัวร้ายที่มาพร้อมปลายฤดูฝน

ทุกปีในช่วงฤดูฝน เรามักได้ยินคำเตือนให้ระวังแมลงก้นกระดก ถึงแม้ว่าจะเป็นแมลงตัวเล็กๆ แต่มีพิษร้ายแรง แค่สัมผัสก็เป็นอันตรายกับผิวหนังแล้ว  วันนี้ HRD Vshared จึงขอร่วมเตือนภัยให้เห็นถึงความร้ายกาจของแมลงก้นกระดก ทราบแล้วบอกต่อๆ กัน เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ไปสัมผัสแมลงตัวนี้กันนะคะ

 แมลงก้นกระดก 

     แมลงก้นกระดกหรือด้วงก้นกระดก (Rove Beetle) เป็นแมลงขนาดเล็ก มีลำตัวยาวประมาณ 7-8 มิลลิเมตร ส่วนหัวเป็นสีดำ ช่วงอกเป็นสีส้ม ส่วนปีก ลำตัว และหางเป็นสีดำ โดยมีส่วนท้องที่เป็นสีส้ม ซึ่งแมลงชนิดนี้มักงอส่วนหางขึ้นเมื่อตัวอยู่บนพื้น จึงเป็นที่มาของชื่อแมลงก้นกระดก  

      ความน่ากลัวของแมลงก้นกระดกไม่ใช่พิษที่เกิดจากการกัดหรือต่อย แต่แมลงชนิดนี้มีสารพิษพีเดอริน (Pederin) อยู่ในเลือดของมัน ซึ่งหากผู้ใดตบ บด หรือสัมผัสโดนตัวแมลงก้นกระดก ก็อาจได้รับสารพิษชนิดนี้จนเกิดอาการระคายเคืองที่ผิวหนังและเกิดผื่นผิวหนังอักเสบจากแมลงก้นกระดก (Paederus Dermatitis) ตามมาได้

สถานที่และช่วงที่พบบ่อย  :  ที่ชื้นๆ ตามพงหญ้า โดยแมลงก้นกระดกชอบออกมาเล่นไฟตามบ้าน มีมากในปลายฤดูฝน

อาการป่วยจากพิษของแมลงก้นกระดก

  • เมื่อสัมผัสโดนผิวหนังจะเกิดการระคายเคือง เปลี่ยนเป็นสีแดง และจะมีอาการแสบร้อนหรือคัน ซึ่งความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับปริมาณและความเข้มข้นของสารพิษที่ได้รับด้วย
  • จากนั้น อาจเกิดผื่นที่มีตุ่มพองน้ำหรือตุ่มมีหนองที่ทำให้รู้สึกคันและเจ็บปวด ซึ่งอาจยังไม่เกิดขึ้นทันทีหลังสัมผัสพิษ แต่อาจปรากฏอาการหลังผ่านไปประมาณ 24 ชั่วโมงไปจนถึง 4 วัน
  • หากเกาตามผิวหนังที่ได้รับพิษ หรือหากเกิดผื่นบริเวณข้อพับต่าง ๆ ผื่นก็อาจแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่น ๆ ได้
  • ผื่นผิวหนังอักเสบจากแมลงก้นกระดกอาจคงอยู่นานถึง 10 วัน แต่ผื่นหรือแผลจะค่อย ๆ ตกสะเก็ดและหายไปเอง
  • หลังหายจากผื่น อาจมีรอยดำปรากฏระยะหนึ่งแล้วหายไป โดยมักไม่เกิดรอยแผลเป็น แต่หากผื่นเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียด้วย ก็อาจเสี่ยงเกิดรอยแผลเป็นหลังผื่นหายได้เช่นกัน
  • หากเกิดผื่นเป็นบริเวณกว้าง ผู้ป่วยอาจมีไข้ ปวดศีรษะ ปวดตามข้อ คลื่นไส้ หรืออาเจียนได้
  • หากพิษเข้าตา อาจทำให้ตาบอดได้

 

ควรทำอย่างไรหากเผลอไปสัมผัสโดนแมลงก้นกระดก ?

  • รีบล้างบริเวณที่โดนตัวหรือพิษของแมลงก้นกระดกด้วยน้ำสบู่ทันที
  • ประคบเย็นในบริเวณดังกล่าว
  • รับประทานยาแก้แพ้
  • ทาว่านหางจระเข้บริเวณที่มีอาการปรากฏ
  • สังเกตสัญญาณของอาการที่เกิดขึ้น หากมีเพียงรอยแดงในบริเวณนั้น อาการอาจดีขึ้นและหายไปภายใน 2-3 วัน
  • หากเกิดผื่นแพร่กระจายลุกลามหรือมีตุ่มพองน้ำเพิ่มมากขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม

วิธีป้องกันการสัมผัสพิษจากแมลงก้นกระดก

  • ไม่สัมผัสตัวหรือบดขยี้แมลงก้นกระดก แต่หากพบเห็นหรือแมลงมาเกาะตามร่างกาย ให้เป่าแมลงออกไปแทน
  • ทำความสะอาดบริเวณที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะเตียงนอน
  • สวมใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวในขณะนอนหลับ เพื่อปกปิดผิวหนังให้มากที่สุด
  • ปิดประตูหน้าต่างให้สนิททั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อป้องกันแมลงบินเข้ามาในบ้าน
  • เปิดไฟเท่าที่จำเป็น เนื่องจากแสงไฟสว่างอาจล่อแมลงชนิดนี้ให้เข้ามาในที่พักอาศัย