ความอร่อยของชานมไข่มุก อาจส่งผลต่อสุขภาพ และโรคภัย ของสมาชิกบ้าน สยามวาลา วันนี้ HRD Vshared จึงขอนำเสนอ สาระความรู้ ในมิติของ Informal Learning ใครมีบทความดีๆ สามารถแบ่งปันเรื่องราวกันได้ที่ HRD ประจำโลเคชั่นนะครับ
ใครที่เป็นตัวยงในการดื่ม ชานมไข่มุก อาจต้องทบทวนอีกสักนิดว่าควรกินชานมไข่มุกในปริมาณที่พอเหมาะพอดี เพราะเอาจริง ๆ เราทุกคนรู้ดีอยู่แก่ใจว่าชาไข่มุกไม่ใช่อาหารที่ให้คุณค่าต่อร่างกายสักเท่าไร แล้วรู้ไหมว่าหากกินชาไข่มุกมาก ๆ อาจเสี่ยงต่อสุขภาพตามนี้ด้วย
1 โรคอ้วนนนนนนนนน
พูดถึงคำว่าอ้วน สาวๆ ชาวสยามวาลา คงจุก และเจ็บ ชาไข่มุกเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงานสูง โดยชาไข่มุก 1 แก้ว ให้พลังงานประมาณ 240-360 กิโลแคลอรี ทั้งยังอุดมไปด้วยน้ำตาล คาร์โบไฮเดรตจากตัวไข่มุก ครีมเทียม นมข้นหวาน แถมบางคนยังเพิ่มท็อปปิ้งอื่น ๆ เพื่อความฟินอีกด้วย ดังนั้นหากกินชานมไข่มุกทุกวัน น้ำหนักก็ขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
2. เบาหวิว เบาหวาน
เห็นกันจะจะว่าชาไข่มุก 1 แก้ว ใส่น้ำเชื่อมไปเท่าไร ใส่นมข้นหวานไปเท่าไร นอกจากนี้ตัวไข่มุกเองก็เป็นแป้งที่ร่างกายจะเปลี่ยนไปเป็นน้ำตาลได้อีก เท่ากับว่าไม่เพียงแต่ปริมาณน้ำตาลในน้ำชาเท่านั้นที่ร่างกายจะได้รับ แต่หลังจากการย่อยไข่มุกแล้วร่างกายก็จะได้รับน้ำตาลจากตัวไข่มุกด้วยเช่นกัน และแน่นอนว่ามันเกินปริมาณที่ร่างกายควรได้รับน้ำตาลต่อวัน กินบ่อยก็ยิ่งทำให้เสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้ง่าย ๆ
3. อึ้ไม่ออก ท้องผูก
ในกรณีที่กินชาไข่มุกแทนข้าว และมีพฤติกรรมไม่ค่อยกินผัก-ผลไม้ ก็มีสิทธิ์เจออาการท้องผูกได้ง่าย ๆ เลยล่ะค่ะ ยิ่งกับคนที่ชอบกลืนไข่มุกแบบไม่เคี้ยวให้ละเอียดก่อน ร่างกายก็อาจจะย่อยไข่มุกได้ลำบากกว่าปกติ ส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายมีปัญหาตามมาได้ เอาเป็นว่ากินชาไข่มุกให้น้อยกว่าผัก-ผลไม้ และอาหารที่มีประโยชน์ก็แล้วกัน
4. โรคหลอดเลือดและหัวใจ
ทั้งน้ำตาลและไขมันอิ่มตัวในนมต่างก็เป็นโทษต่อสุขภาพของเรา ยิ่งถ้าใช้ครีมเทียมที่มีไขมันทรานส์ก็ยิ่งอันตรายต่อหัวใจมากขึ้น เพราะไขมันทรานส์เป็นไขมันตัวร้ายที่เข้าไปเพิ่มไขมันชนิดเลว (LDL) ในร่างกาย เพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ และลดปริมาณไขมันชนิดดี (HDL) จึงอาจเป็นสาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจได้
หลายคนอาจเห็นข้อมูลที่บอกว่า ชานมไข่มุกไม่ย่อย ตกค้างอยู่เต็มท้อง ทั้งที่จริงแล้วไข่มุกทำมาจากแป้งมันสำปะหลังกวนกับน้ำเชื่อมจากน้ำตาลทรายแดง ซึ่งเป็นสารอาหารที่ร่างกายสามารถย่อยได้ง่าย ๆ เพราะร่างกายมีเอนไซม์ในการย่อยแป้งและน้ำตาลอยู่แล้ว ดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่ไข่มุกจะไม่ย่อยและสะสมตกค้างอยู่ตามกระเพาะอาหารและลำไส้ แต่ทั้งนี้ก็ควรเคี้ยวไข่มุกให้ละเอียดก่อนกลืนนะครับ เพราะเม็ดไข่มุกอาจไปติดคอได้
ชานมไข่มุกก่อมะเร็ง เป็นข้อมูลที่แชร์ต่อ ๆ กันมานานพอสมควร ทว่าข้อมูลนี้ไม่จริงเลยสักนิดครับ เพราะอย่างที่บอกว่าไข่มุกเป็นเพียงแป้งมันสำปะหลัง จัดเป็นอาหารประเภทหนึ่ง ร่างกายสามารถย่อยได้ไม่ลำบากนัก ที่สำคัญตัวไข่มุกเองก็ไม่ได้มีสารก่อมะเร็งแต่อย่างใด ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่ากินชาไข่มุกแล้วจะเป็นมะเร็ง แต่ควรระวังเรื่องเบาหวานและโรคอ้วน ที่อาจจะนำโรคร้ายอื่น ๆ มาอีกเป็นพรวนจะดีกว่า
ขอย้ำตรงนี้อีกนิดว่าชาไข่มุกไม่ได้เป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากไปกว่าความอร่อย กินเพลิน ดังนั้นพยายามอย่ากินชาไข่มุกบ่อยจนเกินไป และควรเลือกกินอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่น ผัก ผลไม้ แป้งไม่ขัดสี หรือหากตัดใจจากไข่มุกไม่ได้จริง ๆ มากินชาไข่มุกแบบไม่อ้วนอย่างนี้ก็ได้